แฟ้มสะสมผลงานในรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 11
อาจารย์ให้ฟังเพลง เกาะสมุย ฟังเพลงนี้แล้วได้ประโยชน์อะไร วัตถุประสงค์ในการฟัง ฟังแล้วรู้สึกอย่างไร- ได้รู้จักเกาะสมุย ทะเล เปป็นที่ที่คนอยากจะไปพักผ่อนหลบร้อนกัน ไปเที่ยวทะเลที่ฮอตและฮิตที่สุดของทั้งชาวไทยและชาว ต่างชาติที่ เกาะสมุย"สวรรค์กลางอ่าวไทย มีทั้งภาษาไทยกับภาษาอังกฤษในบทเพลง ทำให้น่าค้นหาและติดตาม
อาจารย์เล่านิทานยกตัวอย่าง ช้างน้อยอัลเฟรด
เรื่องย่อ อัลเฟรดเป็นช้างที่มีงวงยาวมากอัลเฟรดรู้สึกอายที่ตนเองมีงวงยาวกว่าช้างตัวอื่นๆ
จึงพยายามซ่อนงวงของตนวันหนึ่งอัลเฟรดได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ติดอยู่บนกระดานลื่น
อัลเฟรดได้ใช้งวงช่วยเด็กผู้หญิงลงมา สัตว์อื่นๆ พากันชื่นชมอัลเฟรด
ตั้งแต่นั้นมาอัลเฟรดก็อยู่อย่างมีความสุขแม้ว่าตนเองจะไม่เหมือนใครแนวคิดสำคัญ
|
แม้ว่าเด็กๆ
จะแตกต่างจากคนอื่น เด็กๆ ก็สามารถอยู่อย่างมีความสุขได้
|
|
การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีที่เด็กๆ ควรปฏิบัติอยู่เสมอ
|
|
เด็กๆ ควรขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลือ
|
หลังจากที่ครูเล่าเรื่อง "ช้างน้อยอัลเฟรด" ให้เด็กฟังแล้ว เด็กๆ ผลัดเปลี่ยนกันออกมาเล่าเรื่องให้เพื่อนๆ ฟัง ทั้งการเล่าเรื่องจากหนังสือนิทาน และเล่าเรื่องโดยการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากนิทาน กิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมความสามารถในการจับใจความจากการดูภาพและฟังเรื่องราว เด็กได้ฝึกแปลความ ตีความ คาดคะเนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง และเก็บประเด็นสำคัญ แล้วผสมผสานสิ่งที่ฟังเป็นเรื่องราว แล้วพูดถ่ายทอดความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการอ่าน เด็กๆ ทำท่าทางประกอบเพลงช้างน้อยอัลเฟรด กิจกรรมนี้ทำให้เด็กๆ ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสนุกสนาน ฝึกการทรงตัว และการประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อใหญ่งานที่สั่ง ให้แต่ละกลุ่มแต่งเพลง อะไรก็ได้ นำเสอ power point ทำนองอะไรก็ได้ พร้อมท่าประกอบเพลงเล่านิทาน เล่าไปวาดไปทำในสัปดาห์ต่อไป
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 11
เรียนชดเชย สิ่งที่เรียนในวันนี้
อาจารย์อธิบายเรื่องปฏิทิน ปฏิทินทำขึ้นมาเพื่อ เป็นสื่อหรือตัวกลาง
และเป็นสาระที่จะใช้ในการสื่อภาษาทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน พูด โฆษณา ของรักของหวง ประชาสัมพันธ์ เล่าข่าว
เรื่องเล่าเสาร์ - อาทิตย์ กิจกรรมส่งเสริมทักษะ เช่น
การฟังนิทาน ท่องคำคล้องจอง ฟัง
นิทาน เพลง คำคล้องจอง ปริศนาคำทาย
คลื่นเสียง ดนตรี
จังหวะ อัดเทปเสียงอ่าน นิทาน ทำท่าเขียน
ภาพ อักษรอักษรที่ใช้คืออักษรสูง = ศ ฐ ข ส ถ ผ ฝ ห ฉ อักษรกลาง = ก จ
ด ต บ ป อ อักษรต่ำ = ง ญ น ย ณ ร ว ฬ ล สระ = อะ อา , - อิ อี , อุ อู , แอะ
แอ , เอะ เอ, โอะ
โอกลุ่มของดิฉันได้อักษรต่ำ = ง ญ น ย ณ ร ว ฬ ล สระ =
เอะ เอกิจกรรมที่เรียนในวันนี้คือ ให้นักศึกษาหยิบของรักมา 1
อย่างและบอกด้วยว่า ทำไมถึงรักของสิ่งนี้- โทรศัพท์ Blackberry
เพราะ ซื้อเองและเป็นคนสังคมกว้าง
จึงรักโทรศัพท์เครื่องนี้มากให้นักศึกษาโฆษณาสินค้า 1 อย่าง -
ร่ม ร่มมาใหม่มาแรง
กันรังสียูวีได้ดีให้วาดภาพอะไรก็ได้
แล้วให้นำภาพที่วาดมารวมกับเพื่อน เล่าให้เป็นนิทานให้สมบูรณ์แบ่งกลุ่ม
กลุ่มละ 2 คน รายงานข่าวกับประชาสัมพันธ์ทุกกิจกรรมที่เรียนในวันนี้
ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาสำหรับเด็ก
ได้เป็นอย่างดีโดยมีสื่อเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร
วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 10
ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจาก อาจารย์ให้ไปเรียนชดเชย
วัน
อาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555 ณ ห้อง 223
เวลา 13.00 น.
สั่งงานคือ
ให้เตรียมปฏิทินมาตกแต่งด้วย
และอาจารย์จะอธิบายพร้อมให้ทำงานในห้องให้เสร็จด้วย
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 9
การเรียนการสอนในวันนี้ อาจารย์สั่งงานให้ทำสื่อปฏิทิน โดยนำปฏิทินเก่ามา Recycleเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กๆ โดยที่อาจารย์จะมอบหมายงานโดยการให้แบ่งกลุ่มและจะบอกว่าให้ทำอย่างไรต่อไป โดยที่นักศึกษาเตรียมอุปกรณ์ คือ ปฏิทินตั้งโต๊ะ สี กรรไกร และอุกรณืในการตกแต่งมารับงานในวัน พุธ ที่ 15 สิงหาคม 2555
วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 8
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากวันหยุดราชการ
วันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น
"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า "ปุริมพรรษา"
ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ปัจฉิมพรรษา" เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)